5 ข้อที่คุณอาจจะเคยไม่รู้เกี่ยวกับเสริมหน้าอก
5 ข้อที่คุณอาจจะเคยไม่รู้เกี่ยวกับเสริมหน้าอก
1. ควรทำศัลยกรรมหน้าอกหลังจากที่ร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว
นั่นก็หมายความว่าช่วงเวลาที่สาว ๆ เหมาะจะทำศัลยกรรมหน้าอกก็คือ อายุประมาณ 20-22
ปีขึ้นไปแล้วนั่นเอง
2. ศึกษาวัสดุและเลือกรูปทรงหน้าอกที่จะทำให้ดี จะได้ไม่ต้องมานั่งเปลี่ยนใหม่หรือแก้ไขทีหลัง เพราะปัจจุบันมีวัสดุเสริมหน้าอกมากมายให้สาว ๆ ได้เลือกใส่ ซึ่งแต่ละอย่างก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป รวมไปถึงรูปทรงและราคาที่ต่างกันด้วย ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สาว ๆ ควรจะเลือกและตัดสินใจให้ดีเสียก่อน แต่ทั้งนี้ถ้ายังเลือกไม่ถูกก็สามารถขอคำแนะนำจากศัลยแพทย์ก่อนได้ค่ะ
3. ปัจจุบันการผ่าตัดเสริมหน้าอกมีหลายแบบด้วยกัน ได้แก่ การผ่าตัดที่ตำแหน่งรักแร้ ใต้ราวนม รอบปานนม และสะดือ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันออกไป อย่างเช่น
- การผ่าตัดที่ตำแหน่งรักแร้ ข้อดี คือ แผลผ่าตัดจะซ่อนอยู่ใต้รักแร้ ไม่มีแผลตามร่างกาย คือแต่จะเจ็บประมาณ 1 อาทิตย์
- การผ่าตัดที่ใต้ราวนม ข้อดี คือ ฟื้นตัวเร็ว บวมน้อย สามารถหยุดเลือดได้ง่าย แต่ข้อเสียคือจะมีแผลเป็นตลอดชีวิต
- การผ่าตัดที่รอบปานนม ข้อดี คือ แผลผ่าตัดเข้าถึงเต้านมได้โดยตรง และเจ็บน้อย แต่ข้อเสียคือ มีรอยแผลที่รอบปานนม และอาจมีอาการชาที่หัวนม
- การผ่าตัดที่สะดือ ข้อดี คือ แผลเล็ก โดยแผลจะอยู่ตรงขอบสะดือ แต่ข้อเสียคือทำได้เฉพาะคนที่เสริมหน้าอกด้วยถุงซิลิโคนน้ำเกลือเท่านั้น เพราะแผลเล็กต้องพับเข้าไป หากใช้ซิลิโคนชนิดอื่น ๆ จะเข้าไม่ได้
4. สำหรับการเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอก ก็เหมือนกับการเตรียมตัวผ่าตัดใหญ่ทั่วไป ก่อนเข้าห้องผ่าตัดจะต้องงดน้ำและอาหาร อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ต่ำสุดคือ 6 ชั่วโมง นอกจากนี้จะต้องหยุดรับประทานยาที่จะมีผลทำให้เลือดออกง่ายหยุดยากด้วย อย่างเช่น ยาแอสไพริน เป็นต้น และนอกจากนี้สำหรับสาว ๆ ที่ขี้กลัวการผ่าตัดก็ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะก่อนการผ่าตัดแพทย์จะให้ดอมยาสลบก่อน เรียกได้ว่านอนหลับตื่นขึ้นมาก็ดูม ๆ สมใจกันเลย
2. ศึกษาวัสดุและเลือกรูปทรงหน้าอกที่จะทำให้ดี จะได้ไม่ต้องมานั่งเปลี่ยนใหม่หรือแก้ไขทีหลัง เพราะปัจจุบันมีวัสดุเสริมหน้าอกมากมายให้สาว ๆ ได้เลือกใส่ ซึ่งแต่ละอย่างก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป รวมไปถึงรูปทรงและราคาที่ต่างกันด้วย ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สาว ๆ ควรจะเลือกและตัดสินใจให้ดีเสียก่อน แต่ทั้งนี้ถ้ายังเลือกไม่ถูกก็สามารถขอคำแนะนำจากศัลยแพทย์ก่อนได้ค่ะ
3. ปัจจุบันการผ่าตัดเสริมหน้าอกมีหลายแบบด้วยกัน ได้แก่ การผ่าตัดที่ตำแหน่งรักแร้ ใต้ราวนม รอบปานนม และสะดือ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันออกไป อย่างเช่น
- การผ่าตัดที่ตำแหน่งรักแร้ ข้อดี คือ แผลผ่าตัดจะซ่อนอยู่ใต้รักแร้ ไม่มีแผลตามร่างกาย คือแต่จะเจ็บประมาณ 1 อาทิตย์
- การผ่าตัดที่ใต้ราวนม ข้อดี คือ ฟื้นตัวเร็ว บวมน้อย สามารถหยุดเลือดได้ง่าย แต่ข้อเสียคือจะมีแผลเป็นตลอดชีวิต
- การผ่าตัดที่รอบปานนม ข้อดี คือ แผลผ่าตัดเข้าถึงเต้านมได้โดยตรง และเจ็บน้อย แต่ข้อเสียคือ มีรอยแผลที่รอบปานนม และอาจมีอาการชาที่หัวนม
- การผ่าตัดที่สะดือ ข้อดี คือ แผลเล็ก โดยแผลจะอยู่ตรงขอบสะดือ แต่ข้อเสียคือทำได้เฉพาะคนที่เสริมหน้าอกด้วยถุงซิลิโคนน้ำเกลือเท่านั้น เพราะแผลเล็กต้องพับเข้าไป หากใช้ซิลิโคนชนิดอื่น ๆ จะเข้าไม่ได้
4. สำหรับการเตรียมตัวก่อนเสริมหน้าอก ก็เหมือนกับการเตรียมตัวผ่าตัดใหญ่ทั่วไป ก่อนเข้าห้องผ่าตัดจะต้องงดน้ำและอาหาร อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ต่ำสุดคือ 6 ชั่วโมง นอกจากนี้จะต้องหยุดรับประทานยาที่จะมีผลทำให้เลือดออกง่ายหยุดยากด้วย อย่างเช่น ยาแอสไพริน เป็นต้น และนอกจากนี้สำหรับสาว ๆ ที่ขี้กลัวการผ่าตัดก็ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะก่อนการผ่าตัดแพทย์จะให้ดอมยาสลบก่อน เรียกได้ว่านอนหลับตื่นขึ้นมาก็ดูม ๆ สมใจกันเลย
5. ทำแล้วเจ็บเหมือนโดนรถสิบล้อทับ ?อันนี้เรื่องจริงเลยนะคะสาว
ๆ บอกเลยว่าหลังทำน่ะจะรู้สึกเจ็บมาก ๆ
ซึ่งนี่ก็คืออาการที่เป็นผลข้างเคียงหลังการผ่าตัดนั่นเอง เอ้า !
รู้อย่างนี้แล้วใครที่กำลังคิดจะทำ เตรียมใจกันไว้ได้เลย
ที่มา :: https://www.drchris-chiangmai.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น